วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จดหมายจากคลองกระจง ถึง ขุนรองปลัดชู


ก่อนเขียนจดหมายฉบับนี้ข้าพเจ้ามิได้จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธ์แม้แต่ถวายเครื่องเซ่นสรวงขุนรองปลัดชูก็ไม่มี   เพราะข้าพเจ้าไม่มีเวลามากมายจะทำอะไรแบบนั้น   แต่ข้าพเจ้าอยากเรียนว่าหลังจากได้ดูรายการทีวีและไปอ่านความเห็นตามที่ต่าง ๆ ข้าพเจ้าก็พูดอย่างไม่ดัดจริตเลยว่า  หลาย ๆ ความเห็นที่มีต่อขุนรองปลัดชูทำเอาข้าพเจ้าน้ำตาซึม  แม้มันจะไม่ไหลออกมาแต่ก็หยาดคลออยู่เต็มหน่วย   และคิดว่าข้าพเจ้ามีเหตุมากพอที่ต้องเขียนจดหมายถึงยอดวีรชนคนหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ไทย   ข้อความในหน้าหนังสือมีเขียนถึงท่านไม่กี่บรรทัดเรียกได้ว่าแทบไม่มีใครให้ความสำคัญอะไรกับท่านเท่าไหร่นักไม่ว่าจะในยุคไหน   มีเพียงพุทธศักราชนี้เท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับท่าน   แต่ก็เป็นไปในบทบาทที่มีนัยยะและก็มีหลายคนที่ไม่ค่อยจะพอใจกับการฟื้นคืนชีพของท่านขุนรองนัก

ข้าพเจ้ามิพักต้องเอ่ยเพื่อหาเหตุผล   เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เขียนถึงทีมงานที่ทำชีวิตให้ท่านขุนรองโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม  แต่ข้าพเจ้าอยากพูดถึงขุนรองและกองอาทมาตที่ข้าพเจ้าเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน   ข้าพเจ้าไม่รู้จักใครในกองอาทมาตเป็นการส่วนตัวเพราะหนังสือประวัติศาสตร์ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรนัก  ในแบบเรียนก็มีแต่พระยาพิชัยดาบหัก  พระนเรศวร  ชาวบ้านบางระจัน  แต่พวกเขาทำตกลงท่านขุนรองและกองอาทมาตอาสามาตลอด   ซึ่งข้าพเจ้าก็แปลกใจมาเป็นเวลานานว่า  เหตุใดถึงไม่เคยมีการให้ความสำคัญกับกองอาทมาตวิเศษไชยชาญเลย   ทั้ง ๆ ที่วีรกรรมของพวกกองอาทมาตนั้นยิ่งใหญ่ว่า  วีรกรรมดาบหักของพระยาพิชัย  เหนือกว่าปืนข้ามแม่สะโตงเรื่องเล่าแหกตาของพระนเรศวร  และเหนือกว่าวีรกรรมของวีรสตรีที่ (คาดว่า) ถูกฟันขาดสะพายแล่งกลางคอช้าง  

กองอาทมาตอาสากองนี้ถ้าจำไม่ผิดจะมีแค่สี่ร้อยคน   เป็นชาวบ้านที่มีฝีมือดาบและติดตามขุนรองปลัดมารับทัพพม่าด้วยการนำของท่านขุนรองปลัด  ซึ่งจะเป็นทัพหน้าเข้ายันกับพม่าที่จะมาตรงท่าข้าม ด่านสิงขร  และจะบีบรบพม่าตรงอ่าวนี้ด้วยเนื่องจากเป็นยุทธภูมิที่เหมาะสมถ้ากองอาทมาตยันทัพแล้วทัพหลวงของพระยารัตนาธิเบศร์ยกมาเสริมก็จะหักเอาชัยทัพพม่าตรงนี้ได้   กองอาทมาตรบตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงวัน   เพียงกองกำลังที่มีแค่สี่ร้อยได้ยันกับพม่าที่มีเป็นหลายหมื่นได้นานถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงหรืออาจเกินกว่านั้น   โค้งน้ำจรดฟ้าเจือไปด้วยเลือดของกองอาทมาต  ศพผู้กล้านอนกระจัดกระจายบนเรียวหาดและก็มีบ้างที่ตายในน้ำ  

ในตำนานเล่าว่า  กองอาทมาตวิเศษไชยชาญนั้นเก่งกล้าสามารถยิ่งนักถ้าจะเทียบเคียงแล้วก็ไม่ย่อหย่อนกว่าวีรกรรมจูล่งรับอาเต๊าเลย   หนึ่งต้องสู้สิบสู้ร้อย  แต่สิ่งที่แทรกเข้ามาในตำนานคือ  กองอาทมาตพวกนี้หนังเหนียวยิ่งนักประดุจกองทัพปีศาจที่มาจากนรกโลกันต์  พวกเขาสามารถทนทานกับความเจ็บปวดเนื้อหนังไม่ระคายเคืองด้วยแรงดาบ   อยู่ยงคงกระพันเดินหน้ารบอย่างบ้าคลั่งจนกองทัพพม่าล้มลงคนแล้วคนเล่า   วิธีฆ่ากองอาทมาตนั้นต้องใช้เคล็ดลับ  เมื่อมีดพร้าไม่ระคายผิวพวกเขาก็ต้องเอาจับผู้กล้ากองอาทมาตไว้แล้วทุบด้วยค้อนใส่อวัยวะส่วนต่าง ๆ หรือไม่ก็จับมัดร่างแล้วใช้ม้าแยก   และอีกวิธีคือรุมกันจับแล้วเอาหัวกดน้ำ   ท่านลองหลับตานึกภาพสิครับว่า  การตายของทหารกองอาทมาตแต่ละคนน่ากลัวแค่ไหน  น่าสยดสยองเพียงไร

ข้าพเจ้าเชื่อเรื่องนี้แค่ไหน  ก็คงต้องบอกว่าไม่รู้  ไม่ใช่ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ  แต่ไม่รู้  ไม่ได้เห็นด้วยตา   แต่การรบตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงวันแม้จะหนังเหนียวแค่ไหนก็ต้องขาดใจตายแถมเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อสิบหนึ่งต่อร้อยแล้วด้วย   คนไม่กล้าไม่รักชาติจริงมันทำไม่ได้หรอกครับ  ข้าพเจ้าเชื่อว่าต่อให้ ประยุทธ์ หรือ สรรเสริญ ถ้าต้องเผชิญหน้ากับทหารข้าศึกที่มากกว่ากันหลายสิบเท่าตัวก็คงต้องขึ้นแบล็กฮอล์คนี้แล้ว   แต่กองอาทมาตไม่หวั่นไม่หนีกลับวิ่งเข้าใส่ประเคนอาวุธต่าง ๆ ใส่อริราชศัตรู  และก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นแม่ทัพที่คุมทัพหลวงหนี   ถ้าพระยารัตนาธิเบศร์มาช่วย  กองอาทมาตจะแพ้ไหม  ตอบไม่ได้...   แต่คงไม่ตายชนิดสูญพันธ์เช่นนี้

แล้วละครเรื่องนี้สอนอะไร   ข้อหนึ่งแน่นอนครับท่านขุนรอง  มันสอนให้คนรักชาติและรักอย่างมีเหตุผล   แล้วข้อสองคือ  มันเป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่า  อำมาตย์  แม่งเลวระยำหมาต่ำกว่าเหี้ยน่ารังเกียจกว่าหนอนกินศพมาตั้งแต่ยุคอยุูธยาแล้ว   วีรชนกองอาสาวิเศษไชยชาญเขามาด้วยใจรักชาติอยากปกป้องปฐพีโดยไม่ได้หวังลาภสักการะอันใด  เขามีความมุ่งหวังเพียงจะยันทัพของไอ้มังมหานรธาไว้ให้ได้   และมีความหวังว่าทัพหลวงจะมาช่วยชาวบ้านจับศึกเพื่อให้ประเทศพ้นภัย   แต่แล้วอำมาตย์ทำอะไรฝากไว้กับแผ่นดิน   มันยืนมองการศึกอยู่บนภูเขาพอเห็นทัพพม่าที่มากมายจนมืดดำก็ชักม้าหนีแล้วไปเพ็ดทูลเอาลาภยศใส่ตัวว่า  "สู้ศึกเต็มที่แล้ว"  อำมาตย์ไม่ได้ทำอะไรเลยไม่แม้แต่จะคิดช่วย

ไม่เพียงกองอาทมาตที่อำมาตย์เป็นผู้ฆ่าทางอ้อม   ชาวบ้านบางระจันอีกเล่า  มิใช่อำมาตย์และชนชั้นสูงในขณะนั้นเหรอที่เป็นผู้ช่วยพม่าฆ่าวีรชนเหล่านั้นให้ล้มตาย

ท่านขุนรอง  ข้าพเจ้านับถือหัวใจท่านนัก  แต่ข้าพเจ้าอยากรู้เพียงว่าถ้าท่านรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่าอำมาตย์มันชั่วช้าสามานย์แบบนี้ท่านจะยังอาสาไปรบไหม   ท่านจะอาสาไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันจะไม่ใยดีปล่อยให้พวกท่านตายอย่างหมูหมา  ทารุณกรรมรุมโทรมศพพวกท่านไหม  ท่านจะปล่อยให้ลูกน้องถูกเอาหัวกดน้ำ  ถูกม้าแยกร่าง  ถูกค้อนทุบจนร่างกายแหลกไหม   ท่านไม่ต้องตอบนะขุนรอง  (เพราะถ้าท่านมาจริง  ข้าพเจ้าก็คงไม่อยู่แล้ว)   แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านคงตอบข้าพเจ้าว่า  "ข้าก็ยังสู้"  เพราะท่านสู้ด้วยหัวใจที่รักชาติปกป้องพระศาสนา  แต่ท่านรักกษัตริย์ไหม  ข้าพเจ้าตอบไม่ได้   เพราะถ้ากษัตริย์ยุคนั้นแข็งแรงและเป็นที่รักของประชาชนเมืองคงไม่แตก  คงไม่มีศัตรูไหนกล้ามารุกราน   ศัตรูจะยกมาทุกประชิดเมืองได้ก็เมื่อเห็นว่าระบอบกษัตริย์อ่อนแอไม่เอาไหนและไม่เป็นที่รักของประชาชน

วันนี้มีคนขุดเอาชีวิตท่านมาสร้าง  ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะท่านขุนรอง  แต่ข้าพเจ้าก็ยังสงสัยเจตนาที่แท้จริงของผู้สร้าง ว่า เขาจะกล้าชี้ให้เห็นความเลวของระบอบอำมาตย์ไหม   ชี้ให้เห็นชัด ๆ ว่า  ระบอบอำมาตย์มันเลวมาตั้งแต่โบราณและเลวเรื่อยมาจนถึงวันนี้  และชี้ให้เห็นถึงระบอบกษัตริย์ที่ฟุ่มเฟือยอ่อนแอจนเป็นเหตุให้สิ้นชาติ   หรือผู้สร้างเพียงแค่จะทำให้เกิดกระแสรักชาติโดยเอาความจริงที่ชัดเจนซ่อนไว้ใต้พรม   ความตายของท่านเป็นเรื่องของความกล้าแต่กำลังจะเกิดใหม่อย่างแปดเปื้อน  เพราะวันนี้มีคนสงสัยมากมายถึงวีรกรรมที่เป็นเพียงตำนานของพวกท่าน   มันน่าอนาจใจที่คนเราเอาเรื่องนี้มาถกเถียงทั้ง ๆ ที่แทบจะหาความจริงหรือเอกสารเป็นชิ้นอันพิสูจน์ไม่ได้  พวกท่านตกหล่นในหน้าประวัติศาสตร์แต่คนขลาดเขลากลุ่มหนึ่งกำลังเอามาท่านหากินและปลุกกระแสเพื่อให้เกิดความเกลียดชัง

ท่านขุนรองครับ  ท่านคือเหยื่ออันบริสุทธิ์ของระบอบศักดินาสวามิภักดิ์และเป็นคนดีที่ระบอบกษัตริย์ไม่เคยให้ความสำคัญ  

ท่านขุนรองครับ  ดวงวิญญาณของท่านอยู่ที่ไหน  อยู่ที่บ้านสี่ร้อยหรือยังเป็นวิญญาณเจ้าที่อยู่ที่อ่าวหว้าขาว   ข้าพเจ้าไม่แน่ใจและไม่ต้องมาบอกนะครับ  ข้าพเจ้าเพียงอยากจะบอกท่านว่า  เมื่อสิ่งที่เป็นปัญหาให้กับประเทศมาตลอดหลายปีคือ ระบบอำมาตย์  ดังนั้นวันนี้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นสู้เพื่อกวาดล้างและเอาเลือดหัวอำมาตย์มาล้างตีน   ขอให้ท่านชักชวนชาวบ้านบางระจันที่เป็นเหยื่อความโลภเหยื่อความจัญไรของอำมาตย์จับมือกันช่วยมาอำนวยพรให้ประชาชนกลุ่มนั้นได้ไหม   เขากลุ่มนั้นรักชาติไม่แพ้ใครในแผ่นดินไม่งั้นคงไม่ออกมาต่อสู้ด้วยความหวังว่า  "สักวันหนึ่งประเทศไทยจะดีขึ้น"   เขาเดินหน้าต่อสู้กับอำนาจอำมหิตของระบบอำมาตย์ที่ฝังรากมานาน   ขอให้ท่านและชาวบ้านบางระจันช่วยปกป้องคุ้มครองรักษาให้พวกเขากวาดล้างตัวถ่วงความเจริญของประเทศให้ได้นะครับท่านขุนรอง

ข้าพเจ้าเชื่อว่าวิญญาณของพวกท่านยังไม่สงบ  เพราะคงคาใจว่าเพราะเหตุใดพวกท่านถึงตายเพราะเหตุใดกรุงถึงแตก  ดังนั้นพวกเราอนุชนรุ่นหลังท่านจะรับช่วงแก้แค้นให้ท่านเองนะครับท่านขุนรอง   พวกเราจะสู้กับอำมาตย์ต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะ   ต่อสู้เพื่อไม่ให้คนดี ๆ ต้องเป็นเหยื่อความบ้าอำนาจ  ความโลภของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกแล้ว

ขอสดุดีดวงวิญญาณและความกล้าหาญของท่านไว้ ณ ที่นี้ 

2 ความคิดเห็น:

  1. แค่ได้ยินน้องมันเล่าให่ฟังก็ขนลุกแล้วจ่ะ ขอสดุดีวีรกรรมของพวกท่านครับ

    ตอบลบ
  2. แค่ได้ยินน้องมันเล่าให่ฟังก็ขนลุกแล้วจ่ะ ขอสดุดีวีรกรรมของพวกท่านครับ

    ตอบลบ