วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แม้แต่กฏมณเฑียรบาลก็แก้ได้ ถ้ามันยังประโยชน์มาให้แก่ผู้แก้






สืบเนื่องจากตอนที่แล้ว  ตอนไหน ?  ก็ตอนที่ข้าพเจ้าเขียนถึงฮ่องเต้ผู้เป็นยอดแห่งความประหยัดอย่างไร...   วันนี้ข้าพเจ้าก็จะกล่าวสืบเนื่องในเหตุการณ์ยุคนั้น  เมื่อฮ่องเต้เต้ากวงเริ่มประหยัดเริ่มปฏิวัติครัวหลวงท่านก็ไปต้องลิ้นกับอาหารอย่างหนึ่งซึ่งเรียกว่า ตับหมูยัดไส้  ท่านได้สั่งให้คนออกไปดูและจดจำวิธีการทำอาหารของร้านนั้นและนำมาปรุงในวังเพื่อเป็นการประหยัด   เพราะท่านคิดเอาเองว่าอาหารชาวบ้านต้องธรรมด๊าธรรมดาไม่แพงเลิศหรือราคาหูฉี่นัก   และคาดว่าท่านคงทรงโปรดปรานอาหารชนิดนี้เป็นทุนเพราะมิฉะนั้นแล้วก็คงไม่สามารถกินได้ทุกวันอย่างแน่นอน   แต่เมื่อบัญชีรายรับรายจ่ายออกมาท่านก็ต้องตบโต๊ะผางแล้วกริ้วหนักเพราะค่าใช้จ่ายไม่ได้น้อยลงเลยแต่กลับกลายเป็นแพงกว่าเดิมท่านจึงเรียกคนมาถามซึ่งเหตุผล   ท่านจึงได้รับคำตอบว่าตับหมูที่ทำในวังนั้นต้องแพงเพราะ  หมูตัวเดียวมีตับหนึ่งอัน  เมื่อจะเอาตับก็ต้องฆ่าหมู

"แล้วเนื้อหมูล่ะวะ  เนื้อหมูหายไปไหน"  เต้ากวงโกรธพิโรธเอามือชี้หน้าเสนา

"เนื้อหมูก็ต้องทิ้งไปเพราะกฏมณเฑียรบาลของเรา  ไม่มีใครกินของที่ทำถวายองค์ฮ่องเต้ต่อได้พะยะมะห่ะ"  เสนาว่า

"แล้วทำไมเนื้อหมูไม่เอามาทำอาหารอะไรอย่างอื่นเล่า"  ฮ่องเต้เริ่มโมโหมากขึ้น

"เพราะพระองค์ไม่ได้สั่ง"  เสนาตอบ

"ไอ้สัตว์"  ฮ่องเต้ว่า

ดังนั้นท่านจึงสั่งให้ปิดครัวไปเลยถ้าคนรับคำสั่งมันโง่เง่าเต่าตุ่นอย่างนี้แทนที่จะได้ของถูกกลับแพง  ตับหมูยัดไส้  ชาวบ้านซื้อกินชามละไม่กี่บาทกี่เฟื้องกลับกลายเป็นแพงเกินราคาที่คาดการณ์ก็ต้องปิดครัวไปจึงจะดีแล้วท่านก็สั่งว่า  ต่อจากนี้ไปไม่ต้องให้ครัวหลวงทำอะไรไม่ต้องสั่งของเข้ามาเพราะถ้าฮ่องเต้และสนมนางในจะกินอะไรก็ไปซื้อเอาจากข้างนอก   แต่การก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นเพราะมีกฏมณเฑียรบาลเขียนไว้เป็นตัวอักษรชัดว่า  "ห้ามฝ่ายในซื้อของหรืออาหารเข้ามาจากภายนอก  อาหารการกินของฝ่ายในต้องทำออกมาจากครัวหลวงทั้งสิ้น"   กฏนี้มีมาตั้งแต่สมัยไหนข้าพเจ้าไม่ทราบแต่คิดว่าจำเป็นต้องมี   เพราะภัยอันตรายมันเยอะไม่เหมือนอาหารที่มาจากฝ่ายในที่คัดสรรแล้วแต่ของดี ๆ อาหารแต่ละอย่างแต่ละชิ้นต้องตรวจสอบละเอียดยิบว่ามีเมลามีนหรือสารตกค้างกระทั่งสารพิษไหม   เพื่อความปลอดภัยของฮ่องเต้และโคตรวงศ์  ดังนั้นสิ่งที่เต้ากวงคิดจึงเป็นไปไม่ได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน

แต่ก็ไม่ลำบากอะไรเมื่อเต้ากวงย้อนถามว่า  "กฏมณเฑียรบาลมีไว้เพื่ออะไร"

"มีไว้เพื่อทำนุบำรุงและปกป้องพระองค์พระเจ้าข้า"

"ดี  ถ้าอย่างนั้นก็แก้ซะ  เพราะการที่ข้าต้องการให้ไปซื้อของสำเร็จรูปมาแดกเพื่อรักษาดุลย์การเงินในวัง"

"มันเป็นกฏมณเฑียรบาลพระเจ้าข้า  แก้ไม่ได้ง่าย ๆ "

"กฏมณเฑียรบาลสร้างขึ้นโดยใคร"

"โดยบูรพกษัตริย์องค์ก่อน ๆ พระเจ้าข้า"

"ดังนั้นข้าก็มีสิทธิที่จะแก้ได้เพราะข้าคือกษัตริย์ปรัตยุบัน"  (เอากับมันซิ)

สุดท้ายกฏมณเฑียรบาลข้อนั้นก็ถูกลบออกอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้กำลังภายในใด ๆ ผลักดันเลย   ฮ่องเต้บอกว่าให้แก้ไขก็ต้องแก้ไขหรือใครจะกล้าเถียง...

ถ้าใครดูละครพีเรียดมาบ้างก็จะทราบและเคยเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างว่าละครหลายเรื่องตัวละครหลายตัวมีปัญหากับกฏมณเฑียรบาลมากมายเหลือเกิน   ซึ่งแต่ก่อนคนไทยอาจจะได้เห็นจากแค่ละครจีนแต่วันนี้ละครเกาหลีเข้ามาเราก็คงได้เห็นจากละครเกาหลีมากมายพอดู   กฏมณเฑียรบาลบางทีก็เป็นปัญหามากกว่าจะเป็นประโยชน์แต่จะไม่มีมันก็ไม่ได้เพียงแต่ถ้าคนรู้จักผ่อนปรนไม่ใช่ปล่อยให้กฏมารัดคอมันจะเป็นสิ่งที่ดี   และที่สำคัญกฏนี้มันสร้างขึ้นด้วยคนดังนั้นถ้ามันจะแก้ไขก็ต้องเป็นคนและตั้งแต่ดูมาก็เห็นแก้กันได้เกือบทุกเรื่องแม้กฏสำคัญอย่างหนึ่ง  

ในยุคต้นราชวงศ์ชิงมีกฏข้อหนึ่งคือ  "ห้ามเชื้อพระวงศ์แต่งหญิงฮั่น"  เพราะในยุคแรกนั้นนูรฮาฉีกับหวงไท้จี๋เป็นไท่จงไท่จู้ได้เล็งเห็นว่าการแต่งเอาชาวฮั่นเข้ามาในราชวงศ์จะเกิดปัญหาเพราะระยะแรกแมนจูยังไม่แข็งแรงและเสถียรภาพถ้าแต่งหญิงฮั่นเข้าวงศ์มาจะทำให้เลือดแมนจูแท้ ๆ เสียไป  ที่เขากลัวเช่นนั้นเพราะกลัวว่าถ้าเผลอไปมีกษัตริย์เป็นเลือดชาวฮั่นแล้วกษัตริย์คนนั้นจะรักษาผลประโยชน์ฮั่นมากกว่าแมนจูนั่นเอง   แต่สุดท้ายแล้วก็กฏที่ดูเหมือนจะสำคัญมากนี้ก็ต้องถูกแก้ไขในรัชสมัยคังซีเพราะพระองค์นิยมในตัวหญิงฮั่นมากเมื่อย่าของพระองค์ตายไปแล้วจึงแก้กฏนี้โดยให้เหตุผลว่า  "ฮั่นกับแมนจูพี่น้องกันใช่ใครอื่น"  แต่คังซีก็ระมัดระวังในการคัดเลือกผู้สืบสานสันตติวงศ์ปัญหาที่น่ากลัวจึงไม่เกิดขึ้น  แต่สุดท้ายก็มีข่าวลือและตำนานมากมาย  โดยเฉพาะมีคนเชื่อว่า  ฮ่องเต้หย่งเจิ้นและเฉียนหลงเป็นลูกผสมชาวฮั่นหาใช่แมนจู 

สิ่งที่ข้าพเจ้าจะสื่อออกมานั้นเพียงเพราะอยากให้เห็นว่ากฏทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ว่าใครจะมองว่ามันหนักแน่นปานขุนเขาหรือบางเบาเพียงขนนกมันสามารถแก้ได้หมดสิ้นถ้าคนจะทำและมีเหตุผลพอไม่ว่าจะเป็นกฏหมายหรือกฏมณเฑียรบาล  ประวัติศาสตร์สอนให้ข้าพเจ้ารู้ว่าไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้เพียงแต่คนจะกล้าแก้มันหรือไม่และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องการแก้หรือไม่เท่านัน้เอง  แต่ประวัติศาสตร์ก็สอนข้าพเจ้าอยู่เองเหมือนกันว่า  การแก้กฏหมายต่าง ๆ นั้นโดยเฉพาะกฏมณเฑียรบาลผู้ที่จะแก้ไขคือต้องการใช้ประโยชน์และมีผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการหรือเรียกได้ว่าแก้เพื่อสนองความสุขของตน   คังซีแก้เพื่อจะเอาเมียฮั่น  เต้ากวงแก้เพราะจะได้กินตับหมูราคาถูก   ก็ไม่ต่างจากประเทศอื่น ๆ และที่อื่น ๆ ที่มีกฏหมายว่าด้วยกฏมณเฑียรบาล  บางแห่งละเมิดกฏนั้นเสียเฉย ๆ อาทิว่า  แต่งงานออกไปแล้วถือว่าสิ้นฐานันดรศักดิ์ทุกอย่าง  แต่เอาเข้าจริงไม่มีที่ไปกลับมา ณ ประเทศสารขัณฑ์ก็บังคับให้คนกราบไหว้เหมือนเดิม  ทั้ง ๆ ที่มีข้อกำหนดชัดเจนว่าแม้เป็นเจ้าแต่ถ้าแต่งออกไปก็สิ้นฐานันดรศักดิ์ถือว่าเป็นคนธรรมดา    กฏมณเฑียรบาลบางประเทศแก้กันง่าย ๆ อย่างนั้นและตีลูกมั่วนึกว่าประชาชนไม่จดจำ   แต่ในการกลับกันกลับไม่มีการแก้กฏหมายบางข้อที่ส่งผลกระทบถึงผู้คนทั้งประเทศโดยตรงโดยอ้างว่า...  "มันคือกฏหมายสำคัญและเพื่อดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง"

แต่ไอ้ที่แก้ไปแล้วหรือทำเนียนไปแล้วบ้าง...  อันนั้นไม่นับใช่หรือไม่...

แต่ข้าพเจ้าก็พอเข้าใจเพราะบางประเทศนั้นคำว่า กฏหมายเป็นเหมือนคาถาที่เอาไว้กันผีและผู้ที่ถือมันและบังคับใช้ก็ไม่ต่างจากหมอผี   ถ้าผีไม่ลงหม้อก็เอาข้าวสารเสกสาดถ้าผีไม่ลงหม้อก็เอาหวายตีโดยที่หมอผีคนนั้นต้องการเพียงน้ำมันพรายจากบรรดาผีที่เขาทารุณกรรม   มันคือความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งของโลกและสังคม

เมื่อสิ้นราชวงศ์แมนจูเรื่องเล่าเหล่านี้ก็กลายเป็นเพียงเรื่องเก่าเก็บที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอันใด  ไม่จำเป็นต้องเอามาหยิบอ่านซ้ำเพื่อตอกย้ำความเป็นไปในสังคมหรือบางคนก็อาจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องของประเทศจีนไม่ได้เกี่ยวกับไทย   แต่ถ้าเรามองและหยิบจับเอาแต่เพียงประเด็นก็จะเห็นถึงความคล้ายคลึงและนัยยะสำคัญโดยเฉพาะ  "คนที่คิดจะแก้กฏหมายหรือกฏมณเฑียรบาลต้องได้ประโยชน์จากมันหรือต้องการเพียงจะหาประโยชน์และโกยความสุขใส่ตน"   นี่คือพฤติกรรมที่เหมือนกันทั้งไทยจีน

วันนี้กฏหมายหลายมาตราของเราไม่เป็นธรรม  แม้กระทั่งตัวรัฐธรรมนูญก็มีคนเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนปรับปรุงแก้ไข   แต่ก็มีพวกเต่าล้านปีออกมาต่อต้านทั้ง ๆ ที่วันหนึ่งมันรับของโจรและส่งเสริมให้ฉีกรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำไป   และวันนี้ประเทศเราก็มีการต่อสู้เรื่องกฏหมายบางมาตราที่ไม่เป็นธรรมและแน่นอนก็มีพวกเต่าล้านปีออกมาโต้ว่า  "มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้"  ทั้ง ๆ ที่คนเรียกร้องไม่ได้ต้องการให้ยกเลิกเพียงแต่ให้มีการปรับปรุงและทำให้ชัดเจน   แต่ก็เป็นเรื่องยากเพราะบังเอิญว่าคนถือกฏหมายและคนที่มีสิทธ์จะแก้กฏหมายนี้ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับการกระทำ   แม้เพียงจะให้กฏหมายถูกบังคับใช้อย่างเป็นธรรมยังไม่เคยจะมี  

คนพูดผิดพลาด  ติดคุก  คนพูดลิเก  ติดคุก  ศัตรูคนไม่ชอบหน้า  แกล้งให้ติดคุก  แต่ถ้ากฏหมายนี้มีการบังคับใช้อย่างเป็นธรรมแล้วล่ะก็จะเห็นได้ชัดว่าแม้คนที่ไม่ใช่แดงก็ต้องเข้าคุกกันอีกมากหลายทีเดียวแต่วันนี้กฏหมายตัวนี้ปฏิรูปปรับปรุงไม่ได้เพราะมันเป็นกฏหมายที่เอาไว้กลั่นแกล้งคนเสื้อแดงและเป็นกฏหมายที่ใส่ร้ายคนเสื้อแดงที่ดีที่สุด

ดังนั้นถ้าคนแก้กฏหมายหรือเพียงปรับปรุงต้องเสียอำนาจที่ต้องการไป  แล้วจะมีการแก้ไขได้อย่างไรใครเล่าจะยอมเสียผลประโยชน์ของตนเอง  จริงไหมพระคุณท่าน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น