วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จดหมายจากคลองกระจง ถึง โมฆบุรุษตุลย์ สิทธิสมวงศ์ (อีกรอบ กูเบื่อแล้วนะ)



ข้าพเจ้าไม่เคยคิดฝันว่าต้องเขียนจดหมายจากคลองกระจงถึงบุคคลคนเดียวเป็นคำรบที่สาม   เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าข้าพเจ้ามิใช่คนปากเปราะมิได้คิดจะด่าใครแล้วก็เขียนจดหมายด่าอย่างส่ง ๆ เรียกเสียงเฮไปวัน ๆ เพราะมิฉะนั้นข้าพเจ้าคงเขียนจดหมายด่าคนได้มากกว่าวันสองสามฉบับ  แต่เวลาข้าพเจ้าร่างจดหมายด่าใครนั้นต้องมีองค์ประกอบหลายประการซึ่งอยู่ในใจเป็นเบื้องต้นถึงจะกลั่นกรองศุภอักษรถึงบุคคลเหล่านั้นออกมาได้   และอีกสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าไม่คิดฝันว่าข้าพเจ้าจะเขียนจดหมายถึงคน ๆ เดียวในสามคำรบนั้นเพราะข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์ของพระสงฆ์ผู้ล่วงลับไปแล้วอย่าง  พระภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต

ท่านเคยให้โอวาทไว้ว่า

จงระลึกถึงคติพจน์ ว่า “Do no wrong is do nothing!” “ ทำอะไรไม่ผิดเลย ก็คือไม่ทำอะไรเลย ”

ความผิดนี้แหละ เป็นครูอย่างดี ควรจะรู้สึกบุญคุณของตัวเอง ที่ทำอะไรผิดพลาด และควรสบายใจที่ได้พบกับอาจารย์ผู้วิเศษ คือความผิด จะได้ตรงกับคำว่า “ เจ็บแล้วต้องจำ” ตัวทำเอง ผิดเอง นี้แหละเป็นอาจารย์ผู้วิเศษ เป็น Good example ตัวอย่างที่ดี เพื่อจะได้จดจำไว้สังวรระวังไม่ให้ผิดต่อไป แล้วตั้งต้นใหม่ด้วยความไม่เลินเล่อเผลอประมาท อดีตที่ผิดไปแล้วก็ผ่านพ้นล่วงเลยไปแล้ว แต่อาจารย์ผู้วิเศษยังคงอยู่คอยกระซิบเตือนใจอยู่เสมอทุกขณะ ว่า “ ระวัง อย่าประมาทนะ ! อย่าให้ผิดพลาดเช่นนั้นอีกนะ !”

ผิดหนึ่งพึงจดไว้  ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง   ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง  จงหนัก เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า   หกซ้ำอภัยไฉน !

จงสังเกตพิจารณาดูให้ดีเถิด จะเห็นได้ว่า นักค้นคว้าวิทยาศาสตร์ทางโลกก็ดี และท่านผู้วิเศษที่เป็นศาสดาจารย์ในทางธรรมทั้งหลายก็ดี ล้วนแต่ผ่านพ้นอุปสรรค ความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนมาแล้วด้วยกันทุกท่าน

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เตือนใจข้าพเจ้าตลอดว่าจะทำอะไรต้องคิด  ผิดได้แต่อย่าซ้ำซาก  เลอะเทอะได้แต่อย่าบ่อย  แต่บุคคลท่านนี้จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องของความเห็นที่ไม่สามารถชี้ผิดถูกได้แต่ถ้าดูจากการกระทำหนหลังก็ต้องฟันธงลงไปว่าบุคคลผู้นี้ทำอะไรเลอะเทอะซ้ำซาก  คนผู้นั้นคือ  โมฆบุรุษของคนเสื้อแดง  นายแพทย์ ตุลย์ สิทธิสมวงศ์   ครั้งก่อนครั้งเก่าเขาได้ทำอะไรไว้บ้างข้าพเจ้าไม่พยายามจดจำเพราะจะพยายามทำตัวให้เคยชินกับความประพฤติที่ขัดกับหลักประชาธิปไตยของบุคคลท่านนี้   ในวันนี้หรือเมื่อวานนายแพทย์ผู้มีชื่อคนนี้ได้ไปมอบจดหมายพร้อมเกณฑ์คนไปชูป้ายที่หน้าสถานฑูตญี่ปุ่น   แม้เป็นการยื่นจดหมายประท้วงหรือทวงถามแต่ลักษณะภาพที่ออกมาทางโทรทัศน์นั้นมันดูออกว่าเป็นการกดดัน   เพียงเพื่อจะให้ทางสถานฑูตระงับการออกวีซ่าไม่ให้ทักษิณเข้าประเทศญี่ปุ่น

มันเป็นสิทธิของนายแพทย์ตุลย์หรือไม่  ข้าพเจ้าไม่อาจไปก้าวล่วงแต่ในความรู้สึกของข้าพเจ้าแล้วการกระทำนี้มันช่างเลอะเทอะและเหลวไหลสิ้นดี   เพราะถ้าเราย้อนรฤกชาติลงไปถึงวันที่นายแพทย์ผู้มีชื่อคนนี้ทำตัวเป็นโจรผู้ก่อการร้ายปิดสนามบินสุวรรณภูมิกับเพื่อน ๆ ในเวลานั้นเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่สมรู้ร่วมคิดให้ประเทศไทยมีปัญหากับเพื่อนบ้านอย่างประเทศเขมร  คนกลุ่มหมอตุลย์ในเวลานั้นไม่ใช่เหรอที่พูดเรื่องเขาพระวิหารเป็นตุเป็นตะให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศ   เมื่อก่อกวนจนสมใจแล้วเกิดอะไรขึ้น  ประเทศไทยมีปัญหากับเขมรอย่างเป็นทางการและเรื้อรังต่อมาจนถึงขั้นตั้งอาวุธยิงถล่มกัน  คนบาดเจ็บล้มตายก็มี   แล้วนายแพทย์มีชื่อท่านนี้เคยรับผิดชอบอะไรกับสิ่งที่เขาสมรู้ร่วมคิดปลุกกระแสบ้า ๆ บอ ๆ นี้ขึ้นมาบ้าง  คำขอโทษเสียใจมีบ้างหรือไม่  เราเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้หลุดออกจากปากนายตุลย์บ้างไหม   ข้าพเจ้าตอบแทนเลยว่า  ไม่มี

วันนี้การเดินทางไปสถานฑูตของเขาไม่ได้ดีอะไรเกิดขึ้น  ไม่มีความรุนแรง  แต่มันก็เป็นภาพที่สื่อให้เห็นออกไปยังต่างประเทศว่าประเทศเราพร้อมจะมีปัญหากับอีกประเทศหนึ่งแล้ว  และประเทศนั้นก็มีความเป็นอารยะมากกว่าเรา   การอนุญาตให้คนเข้าประเทศหรือไม่มันเป็นกิจการภายในซึ่งเราไม่สามารถไปบังคับให้เขาทำหรือไม่ทำในสิ่งที่เขามีอำนาจการตัดสินใจอยู่   หมอตุลย์อาจไม่เคยเข้าใจว่า  คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร  นั้น  ในประเทศที่เป็นอารยะแล้วเขาจะไม่เห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร  เป็นนักโทษคดีร้ายแรงถึงขั้นห้ามเข้าประเทศ   เพราะในประเทศอารยะเขาจะมองถึงเหตุที่มาที่ไป   เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลานี้ที่ทักษิณมีข้อหาเป็นนักโทษนั้นมาจากผลพวงของการปฏิวัติรัฐประหาร  

ประเทศไทยประกาศตัวว่าเป็น  ประชาธิปไตย  ดังนั้นจึงไม่ควรมีการปฏิวัติด้วยประการทั้งปวง   นานาชาติไม่ยอมรับ  และนักโทษที่มาจากคำตัดสินของคนที่มาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิวัติ  อารยประเทศจะมองว่าเป็นเรื่องทางการเมืองซึ่งมีการกลั่นแกล้งและความไม่เป็นธรรม   นั่นคืออารยประเทศ  มีเพียงคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มเดียวในประเทศไทยเท่านั้นที่ยังไม่ยอมศิวิไลซ์ตามยุคสมัยยังจะมาเอาเป็นเอาตายกับผู้มีความผิดเพราะการเมือง   ดังนั้นการที่หมอตุลย์ไปกดดันสถานฑูตญี่ปุ่นนับว่าเป็นการไป "เสือก" กับกิจการภายในและไปยุ่งยากให้เกิดความรำคาญกับเขาเท่านั้นเอง

ข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่า  เหตุใดหมอตุลย์ไม่ควรทำเรื่องที่ควรทำ  อย่างเช่นไปกดดันสถานฑูตเขมรให้ปล่อยตัว  วีระ สมความคิด  เพราะอย่างที่บอกไปว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยร่วมหัวจมท้ายก่อความวุ่นวายสร้างความร้าวฉานด้วยกันมา   วันนี้เพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ของเขาติดคุกเขมร  นายแพทย์คนนี้เคยคิดรวมพลไปช่วยมิตรรักสหายเก่าบ้างหรือไม่  ไม่ใช่เอาเวลามายุ่งกับกิจการภายในของประเทศอื่นเขาเช่นนี้   ดังนั้นใครคิดจะเป็นผู้ตามหรือร่วมอุดมการณ์กับหมอตุลย์กรุณาระวังตัวให้ดีนะครับ   ถ้าอยากรู้ว่าสันดานของหมอตุลย์เป็นอย่างไรต่อสู้ร่วมกับเขาแล้วจะมีจุดจบอย่างไร  ดูตัวอย่างที่ นาย วีระ สมความคิด ได้เลย   ถ้าใครอยากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยก็ทำ

ข้าพเจ้าเข้าใจดีว่าตัวอย่างที่ยกมามันคนละเรื่องและคนละเงื่อนไขเวลา  เพียงแต่ข้าพเจ้าอยากจะชี้ให้เห็นว่า  นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์  เป็นเพียง คนส่งจดหมายและเป็นผู้รับเหมาก่อม็อบจัดตั้ง  ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในด้านการเมืองการปกครองอีกทั้งเป็นผู้รับเหมาที่ไร้ความรับผิดชอบไม่ติดตามงานอีกต่างหาก   ครั้งหนึ่งกอดคอทวงเขาพระวิหารกับ นาย วีระ  แต่ตอนนี้วีระติดคุกมาจะปีหรือกว่าปี  ยังไม่เคยเห็นหมอตุลย์ไปร่วมแก้ปัญหาอะไรเลย   ไม่เคยแม้แต่โผล่หัวไปยื่นจดหมายกดดันสถานฑูตเขมรให้ปล่อยตัววีระด้วยซ้ำ 

หมอตุลย์ครับ  ข้าพเจ้าไม่อยากถามว่าท่านรับจ้างใครมาหรือจงใจมาป่วนใครเพียงเพราะอารมณ์ขาดสติชั่ววูบ  เพราะมันคือสิทธิของท่านแต่ข้าพเจ้าอยากเรียนถามว่าในขณะที่ท่านออกมาเย้ว ๆ กลางถนนแบบนี้   ท่านกลับไปแก้ไขความคิดอันบิดเบี้ยวของท่านหรือยัง   ในวันนี้ท่านมาสวมบทบาทนักเคลื่อนไหวแต่ท่านจะทำมันได้ดีอย่างในเมื่อขณะที่ท่านสวมบทบาทหมอซึ่งเป็นวิชาชีพของท่าน  ท่านยังทำไม่ได้ดี  ข้าพเจ้ายังจำได้ชัดเจนบนเวทีพันธมิตรตอนนี้พันธมิตรปะทะกับตำรวจแล้วมีตำรวจบาดเจ็บ   ท่านพูดบนเวทีว่า  "หมอมีสิทธ์ที่จะไม่รักษาตำรวจที่ทำร้ายประชาชน"   ข้าพเจ้ายังจำคำพูดของท่านได้ดีนะครับ   หมอไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธการรักษาคน  มันเป็นการกระทำที่ไร้จรรยาบรรณ   เมื่อท่านเป็นหมอแล้วทำหน้าที่ท่านยังไม่ได้ดี  ท่านจะสวมบทบาทในเรื่องที่ท่านไม่มีความรู้ความเข้าใจได้ดีได้อย่างไร  หรือว่าแค่สู่รู้ไปวัน ๆ

และข้าพเจ้าก็นึกว่าเรื่องจะจบแต่เพียงเท่านี้  แต่ข้าพเจ้าก็ผิดหวังเพราะในวันเดียวกันหมอตุลย์ประกาศจะเอาคนเสื้อหลากสีไปบุกทำเนียบวันที่ยี่สิบสามนี้   เพื่อกดดันและคัดค้านรัฐบาลไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ  การนิรโทษกรรม  และค้านการชดเชยศพผู้เสียสละเก้าสิบเอ็ดศพคนเสื้อแดงรายละสิบล้านบาท  พร้อมทิ้งท้ายว่า 

"การที่ประเทศได้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล เป็นเรื่องเฮงซวยตามคาด ผมไม่รู้สึกแปลกใจเลย กับการเคลื่อนไหวทุกอย่าง รัฐบาลทำไปผลประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนั้น”

หมอตุลย์ครับ  คุณบ้าหรือคุณประสาทเสียในนโยบายของที่จะแถลงต่อสภามันมีเรื่องที่ท่านพูดหรือเปล่าครับ  พนันกันตัดหัวคนละทีไหมว่าแม้ยิ่งลักษณ์อยากจะทำแค่ไหนแต่ก็คงไม่ทำและไม่ทำในตอนนี้   บางเรื่องก็เป็นแค่แนวคิดยังไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน  คุณจะต่อต้านเอาคนไปขวางทางการจราจรให้เปลืองออกซิเจนในอากาศทำไมล่ะครับ   ข้าพเจ้าข้องใจนักว่าทำไมหมอตุลย์คัดค้านไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญที่มาจากมือโจร  หมอตุลย์ยินดีรับของโจรแต่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย  ก็แปลกดี...   แต่ก็อีกแหล่ะข้าพเจ้าไม่แปลกใจที่หมอตุลย์ทำสิ่งเหล่านี้เพราะหมอตุลย์สนิทสนมกับพวกเผด็จการนิยมอำมาตย์เลยตีความคำว่าประชาธิปไตยในอีกแบบหนึ่งและผิดจากหลักสากล   ดูจากเหตุการณ์เตรียมการบุกสภารอบนี้ก็พออ่านได้แล้วล่ะว่าหมอมีชื่อคนนี้เป็นเผด็จการเพียงใด   แค่สิ่งที่เขาคิดหมอตุลย์ยังออกมาห้ามและบังคับไม่ให้คิด  ก็พอจะรู้นะครับว่านายแพทย์คนนี้เป็นคนอย่างไรและสุดท้ายแล้วคุณหมอพอจะทราบไหมครับว่าการที่คุณด่าคนอื่นว่าเฮงซวย  ทำแต่เรื่องเฮงซวยนั้นแท้จริงแล้วเป็นใคร

คุณหมอรู้ไหมว่าคุณหมอเหมาะกับคำว่า  เฮงซวย  แค่ไหน   ทุกวันนี้แค่เปิดทีวีแล้วเห็นหน้าคุณหมอไม่ต้องได้ยินคำพูดของคุณหมอนะครับ  คนเขาก็เอาเท้าทาบหน้าท่านแล้วด่าท่านว่า  ไอ้เฮงซวย แล้วล่ะ

ถามจริงเถอะครับคุณหมอ  เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวรกโลกถ่วงความเจริญประเทศ  และเมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเฮงซวยซ้ำ ๆ ซากเสียที   คุณหมอไม่เบื่อแต่พวกข้าพเจ้าเซ็งและเหม็นขี้หน้าคุณหมอมากนะครับ 

คุณหมอครับ  วันเกิดปีนี้ข้าพเจ้าจะส่งของขวัญวันเกิดให้คุณหมอ  มันไม่มีราคาค่างวดอะไรหรอกครับเป็นเพียงพจนานุกรมเล่มหนึ่ง  ข้าพเจ้าเจตนาซื้อเพื่อให้คุณหมอเปิดดูคำว่า  สาระ  และ  ประโยชน์  ว่ามันสะกดอย่างไร  เพราะดูเหมือนว่าทั้งชีวิตของคุณหมอจะสะกดสองคำนี้ไม่เป็น

สวัสดี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น